ซิงเกิลใหม่ ‘DON’T CRY, PUT YOUR HEAD ON MY SHOULDER’ รับฟังได้แล้ว
พร้อมประกาศทัวร์อารีนา 27 รอบในสหราชอาณาจักร/ยุโรป
รวมถึงที่ O2 ARENA ของกรุงลอนดอน ในเดือนตุลาคมนี้
Credit: Darren Gwynn
Tom Odell (ทอม โอเดลล์) ยินดีที่จะประกาศถึงรายละเอี ยดของอัลบั้มชุดใหม่ A Wonderful Life
งานเพลงซึ่งเตรียมวางแผง 5 กันยายน 2025 ผ่าน UROK/Virgin นี้ ถูกบันทึกเสียงในกรุงลอนดอน และ 10 เพลงในอัลบั้มนี้ จะรวมเพลงแนะนำและเพลงเปิดในอั ลบั้มอย่าง ‘Don’t Let Me Go’ ด้วย
จองอัลบั้มล่วงหน้าได้ ที่นี่
สำหรับอัลบั้มเต็มชุดที่ 7 Tom Odell ได้สร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนถึ งจิตวิญญาณสากลแห่งความเห็ นอกเห็นใจ , ความซื่อตรงจริงใจ โดยมองไปยังภูมิทัศน์ที่พั งทลายของโลกสมัยใหม่ สังคมที่แตกแยก และได้พบกับโลกที่เสื่ อมโทรมและความหายนะ แต่ในขณะเดียวกันก็มีประกายแห่ งความงามและความหวังอันเป็นส่ วนสำคัญ
Tom ตั้งใจปล่อยซิงเกิลใหม่ ‘Don’t Cry, Put Your Head On My Shoulder’ เพื่อให้สอดคล้องกั บการประกาศเปิดตัวอัลบั้ม เพลงกล่อมที่ให้ความรู้สึกราวกั บภาพยนตร์ ขับเคลื่อนด้วยเสียงกีตาร์ก่ อนพาทะยานสู่ความอลังการ เพื่อสื่อว่า Tom และแฟนเพลงของเขาถูกโอบล้อมด้ วยแสงไฟจากมือถือและไฟแช็ก ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญเมื่ อเขานำเพลงนี้ไปแสดงสด
เพลงนี้บอกเล่าเรื่องราวของเพื่ อนคนหนึ่งที่จมอยู่กับความขั ดแย้งและความยากลำบากในการเรี ยนรู้วิธีที่จะช่วยเหลื อพวกเขาอย่างที่ดีที่สุด ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่ างที่ชี้ให้เห็นถึ งความสามารถในการแต่งเพลงของ Tom Odell ทั้งยังเป็นการกลับมาอีกครั้ งของนักร้อง-นักแต่งเพลงอั งกฤษผู้โด่งดังตลอดกาลคนนี้ รับฟังได้ ที่นี่
เพลงในอัลบั้ม A Wonderful Life พยายามทำความเข้าใจถึงการมีอยู่ ของมนุษย์ ซึ่งแก่นแท้ของมัน คือความวุ่นวายและความสับสน อีกทั้งยังไม่ใช่แค่สิ่งใดสิ่ งหนึ่ง “ผมหวังว่าผมจะสรุปอารมณ์ และสารที่ต้องการสื่อให้ออกมาชั ดเจน แต่เพลงเหล่านี้กลับเป็นสิ่งที่ ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง” เขากล่าว “การมีชีวิตอยู่และเขียนถึงสิ่ งนี้อย่างตรงไปตรงมา ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในชี วิตผมตอนนี้ไปแล้ว และผมรู้สึกว่าหากผมมีหน้าที่ ใดๆ ก็ตาม ผมก็แค่อยากทำสิ่งนั้นต่อไปเรื่ อยๆ”
Tom อยู่ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ ตในแถบยุโรปร่วมกับ Billie Eilish และเตรียมกลับมาเล่นในสถานที่ เดิม แต่เป็นโชว์เต็มๆ ของเขาในปีนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการทั วร์ครั้งใหญ่ในขนาดอารีนาถึง 27 วันทั่ว สหราชอาณาจักรและยุโรป โดยทัวร์นี้ยังรวมถึงโชว์ที่ O2 Arena กรุงลอนดอน ในค่ำคืนของวันที่ 29 ตุลาคมอีกด้วย
แฟนเพลงสามารถสั่งจองอัลบั้มล่ วงหน้าได้ที่ Tom’s webstore ก่อนเวลา 17.00 น. ของวันอังคารที่ 27 พฤษภาคมตามเวลาของอังกฤษ เพื่อที่จะสามารถซื้อตั๋วคอนเสิ ร์ตใน สหราชอาณาจักร/ยุโรป ได้ก่อนใคร โดยช่องทางการจำหน่ายตั๋วคอนเสิ ร์ตล่วงหน้าจะเปิดจองได้ตั้งแต่ เวลา 10.00 น. ของวันพุธที่ 28 พฤษภาคมตามเวลาอังกฤษ จากนั้นจึงจะเปิดให้จองสำหรับบุ คคลทั่วไปได้ตั้งแต่เวลา 10.00 น ของวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคมตามเวลาของอังกฤษ
สุดสัปดาห์นี้ Tom จะขึ้นแสดงในงาน Radio 1’s Big Weekend 2025 ที่เซฟตัน พาร์ค เมืองลิเวอร์พูล ส่วนการทัวร์ร่วมกับ Billie Eilish ก็ยังมีต่อเนื่องในยุโรปจนจบเดื อนนี้ การทัวร์คอนเสิร์ตแบบใกล้ชิดกับ Tom ก็กำลังจะมีขึ้นในยุ โรปและสหราชอาณาจักรช่วงฤดูร้อน ซึ่งรวมถึงโชว์เล็กๆ ใน Battersea Arts Centre ในเดือนกรกฎาคมที่บั ตรขายหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่วิ นาที โดยเขายังจะเดินสายไปใกล้ชิดกั บแฟนๆ ในแถบอเมริกาเหนือในเดือนกั นยายนอีกด้วย
Tom ร่วมแสดงบนเวที Woodsies ในงานดนตรี Glastonbury ปีนี้ ข่าวการทัวร์เพิ่มเติมจะแจ้งให้ ทราบเร็วๆ นี้
เพลงฮิตของ Tom เมื่อปี 2012 อย่าง ‘Another Love’ ได้รับความนิยมมาเรื่อยๆ บน TikTok จนติด Top 50 บนชาร์ต Billboard TikTok และถูกนำไปใช้ประกอบในคลิปวิดี โอบน TikTok นับล้านคลิป ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อสื่อถึ งความหวังกับการสนับสนุนยู เครนและผู้หญิงชาวอิหร่านที่สร้ างคลิปประท้วงต่อการเสียชีวิ ตของ Mahsa Amini (มาห์ซา อามินี) ระหว่างถูก “ตำรวจศีลธรรม” ควบคุมตัว เพลงนี้ Tom แต่งไว้สมัยยังหนุ่ม ซึ่งถือเป็นก้าวแรกบนเส้ นทางสายดนตรีของเขา มียอดสตรีมทาง Spotify กว่า 3 พันล้านครั้ง พร้อมกับเป็น 1 ใน 25 เพลงที่มียอดสตรีมสูงสุ ดตลอดกาลของ Spotify
ถึงอย่างนั้นยอดสตรีมเพลงอั นมหาศาลและรางวัลที่สั่ งสมมาในวงการ (BRITs และ Ivor Novellos) เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเรื่ องราวเกี่ยวกับนักดนตรีผู้เปี่ ยมพรสรวรค์คนนี้ ที่สามารถสร้างสรรค์งานเพลงได้ โดนใจผู้ฟังนับล้านทั่วโลก นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ศิ ลปินรุ่นเยาว์ (The Last Dinner Party, Billie Eilish, AURORA) และรุ่นเก๋า (Cat Stevens, Elton John) ถึงแสดงความชื่นชมและสนับสนุ นในสิ่งที่เขาทำ
A Wonderful Life เปรียบดังผลงานชิ้นสำคัญของนั กดนตรีที่อยู่ในจุดสูงสุ ดของอาชีพ และยังคงได้รับความนิยมเพิ่มเรื่ อยๆ
Album Tracklisting:
Don’t Let Me Go
Don’t Cry, Put Your Head On My Shoulder
Prayer
Can We Just Go Home Now
Why Do I Always Want The Things That I Can’t Have
Wonderful Life
Ugly
Strange House
Can Old Lovers Ever Just Be Friends?
The End Of Suffering
Intimate Headline Tour (+ Billie Eilish Arena Supports):
24th May – Radio One’s Big Weekend 2025, Sefton Park, Liverpool
29th May – Lanxess Arena, Cologne (w/ Billie Eilish)
30th May – Lanxess Arena, Cologne (w/ Billie Eilish)
1st June – O2 Arena, Prague (w/ Billie Eilish)
3rd June – Tauron Arena, Krakow (w/ Billie Eilish)
4th June – Tauron Arena, Krakow (w/ Billie Eilish)
6th June – Wiener Stadthalle – Halle D, Vienna (w/ Billie Eilish)
8th June – Unipol Arena, Bologna (w/ Billie Eilish)
11th June – Sala Apolo, Barcelona – SOLD OUT
14th June – Palau Sant Jordi, Barcelona (w/ Billie Eilish)
15th June – Palau Sant Jordi, Barcelona (w/ Billie Eilish)
18th June – Heimathafen Neukölln, Berlin – SOLD OUT
27th – 29th June – Glastonbury Festival (Woodsies)
3rd July – Bouffes du Nord, Paris – SOLD OUT
8th July – Battersea Arts Centre, London – SOLD OUT
15th July – De Wester, Amsterdam – SOLD OUT
18th September – The Vic Theatre, Chicago, IL
20th September – Lincoln Theatre, Washington, DC
21st September – Theatre of Living Arts, Philadelphia, PA
22nd September – Webster Hall, New York, NY
25th September – Paradise Rock Club, Boston, MA
27th September – St. Andrew’s Hall, Detroit, MI
29th September, MTELUS, Montreal, QC
30th September – Massey Hall, Toronto, ON
UK + European Arena Headline Tour:
21st October – Cardiff Utilita Arena, Cardiff
23rd October – 3Arena, Dublin
24th October – The SSE Arena, Belfast
26th October – OVO Hydro, Glasgow
28th October – Co-Op Live, Manchester
29th October – O2 Arena, London
31st October – Accor Arena, Paris
1st November – Lanxess Arena, Cologne
3rd November – Ziggo Dome, Amsterdam
7th November – Unity Arena, Oslo
8th November – Avicii Arena, Stockholm
10th November – Royal Arena, Copenhagen
11th November – Barclays Arena, Hamburg
13th November – Arena Leipzig, Leipzig
14th November – Olympiahalle, Munich
16th November – Budapest Arena, Budapest
17th November – TAURON Arena, Krakow
19th November – Sportovni Hala Fortuna, Prague-Bubeneč
20th November – Uber Arena, Berlin
22nd November – SAP Arena, Mannheim
23rd November – Stadthalle, Vienna
26th November – Hallenstadion, Zurich
27th November – Unipol (Mediolanum Forum), Milan
30th November – Sant Jordi Club, Barcelona
1st December – Movistar Arena, Madrid
3rd December – Rockhal, Esch-sur-Alzette
4th December – Sportpaleis, Antwerp
A Wonderful Life album artwork
เกี่ยวกับ A Wonderful Life:
Tom Odell ค่อยๆ เผยตัวตนออกทีละขั้น ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานที่ ยอดเยี่ยมและมีความไม่มั่ นคงมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสื่อถึงความอ่อนแอของมนุ ษย์และความเปราะบางของโลกที่อยู่ รอบตัวเรา นับตั้งแต่สถานการณ์ โรคระบาดและงานเพลงชุด Monsters เมื่อปี 2021 รูปแบบการแต่งเพลงของ Odell ก็เน้นความดิบและซื่อตรงมากกว่ าเดิม จนแฟนเพลงรุ่นใหม่จำนวนไม่น้ อยรู้สึกว่าผลงานของเขาเป็นที่ พึ่งทางใจได้อย่างแท้จริง อัลบั้มชุดที่ 7 ‘Black Friday’ เพลงไตเติลชวนสะเทือนอารมณ์มี ยอดสตรีมรวมกันเฉียด 700 ล้านครั้งนับตั้งแต่ปล่ อยมาปลายปี 2023 ขณะเดียวกันกระแสความนิยมที่กลั บมาอีกครั้งของซิงเกิลเพลงแรก ‘Another Love’ เมื่อปี 2012 ก็ส่งให้มียอดสตรีมกว่า 3 พันล้านครั้งเฉพาะทาง Spotify
ในแง่ของการเป็นนักเขียนที่กล้ าหาญขึ้น ผลักดันให้ Odell พยายามสำรวจถึงส่วนที่ เปราะบางที่สุด และส่วนที่เจ็บปวดที่สุดในจิ ตใจของเขา เขาได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะศิลปิ นตัวจริง ตอกย้ำด้วยการที่เขาได้รั บการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Ivor Novello ในสาขาเพลงยอดเยี่ยมด้านดนตรี และเนื้อเพลง ในปี 2023 และ 2024 สำหรับศิลปินวัย 34 ปี การเดินทางนี้ถือเป็นการเปิดหู เปิดตา “สิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกอึดอั ดเวลาต้องเล่นโชว์ต่อหน้าเพื่ อนหรือพ่อแม่ มันคือสิ่งที่คุณควรแสดงออกมา เพราะมันควรค่าที่จะแบ่งปัน” เขากล่าว “เรามักจะเก็บเรื่ องราวมากมายไว้ข้างใน และนั่นคือสิ่งที่ทรมานเรามากที่ สุด – ไม่ใช่สิ่งที่เราเตรียมจะพูดถึง ดังนั้นผมจึงลองเขียนเกี่ยวกั บเรื่องนั้นให้มากที่สุดเท่าที่ จะทำได้”
แม้ Odell จะเริ่มโด่งดังฐานะศิลปินป๊ อปดาวรุ่งของอังกฤษที่คว้ารางวั ล Brit Award มาครอง แต่ความสำเร็จในกระแสหลักไม่ใช่ แรงผลักดันสำหรับเขา เขาสะท้อนความคิดของตัวเองว่า “ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นป็ อปสตาร์ และผมมักจะรู้สึกมาตลอดว่าผู้ คนเข้าใจผมผิดไป” ด้วยความมุ่งมั่นกับวิสัยทัศน์ ของตัวเอง เขาจึงแต่งเพลงที่สะท้อนเรื่ องราวส่วนตัว ทั้งการเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิต , ประเด็นเรื่องรูปลักษณ์ ภายนอกและอื่นๆ นั่นทำให้เขาได้เห็นความเชื่ อมโยงกับผู้คนทั่วโลกผ่านผู้ติ ดตาม 2.4 ล้านทาง TikTok รวมถึงในโลกแห่งความเป็นจริงผ่ านการแสดงสด ซึ่งเขาร่วมโชว์กับ Billie Eilish ในการทัวร์แถบยุโรป ก่อนที่จะเข้าสู่คอนเสิร์ตสุ ดอบอุ่นของเขาเอง “มันช่วยบรรเทาความเหงาจากการมี ชีวิตอยู่ได้บ้าง” เขาชี้ให้เห็นว่ าทำไมเพลงของเขาถึงได้โดนใจผู้ คนอย่างมาก “นั่นเป็นสิ่งที่เราทุกคนต่ างกำลังเผชิญร่วมกัน”
สำหรับอัลบั้มเต็มชุดที่ 7 Tom Odell ได้สร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนถึ งจิตวิญญาณสากลแห่งความเห็ นอกเห็นใจ, ความซื่อตรงจริงใจ โดยมองไปยังภูมิทัศน์ที่พั งทลายของโลกสมัยใหม่ สังคมที่แตกแยก และได้พบกับโลกที่เสื่ อมโทรมและความหายนะ แต่ในขณะเดียวกันก็มีประกายแห่ งความงามและความหวังอันเป็นส่ วนสำคัญ
Tom ใช้เวลาถึง 9 เดือนของปี 2024 ในการแต่งเพลงในอัลบั้ม A Wonderful Life ทั้งช่วงที่อยู่บนรถบัส และรถไฟระหว่างที่เขากำลังทัวร์ ซึ่งห่างไกลจากบรรยากาศความสุ ขสงบในบ้านที่เขาเคยใช้แต่ งเพลง ความตั้งใจที่อยากให้เนื้ อเพลงออกมาสมบูรณ์ยิ่งกว่าอัลบั มชุดก่อนๆ แสดงให้เห็นถึงการทำงานด้ วยความรักอย่างแท้จริง “ผมทุ่มเทกับมันทุกบรรทัดจริงๆ” เขากล่าว “ผมใส่ใจในทุกคำ คอยแก้แล้วแก้อีก ปรับแล้วปรับอีก ผมสามารถหมกมุ่นกับสิ่งใดสิ่ งหนึ่ง ซึ่งนิสัยแบบนั้นของผม อาจจะเป็นด้านที่แย่ที่สุด และเป็นนิสัยที่ผมยอมจ่ายเงิ นให้นักบำบัดบอกวิธีในการช่ วยกำจัดมันทิ้งไป แต่ในขณะเดียวกันมันก็ช่วยผลั กดันให้ผมไม่เคยยอมแพ้กั บการทำเพลง”
ดังเช่นเพลงในอัลบั้มชุดที่ 7 ของ Odell สะท้อนถึงช่วงเวลาชัดเจนและเปี่ ยมอารมณ์ที่สุดในอาชี พของเขาจนถึงตอนนี้ หลายเพลงถูกเขียนขึ้นมาเพื่ อแสดงการตอบสนองต่อข่าวร้ายที่ ถาโถมมาอย่างต่อเนื่อง และ “ความรู้สึกที่ว่าโลกกำลังจะล่ มสลายในเกือบทุกสัปดาห์— ซึ่งสำหรับใครบางคน มันดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ” เขาใช้การเขียนเพลงเป็นเครื่ องมือกลั่นกรองกระแสแห่งความสิ้ นหวัง, ความโกรธเกรี้ยว และความรู้สึกไร้หนทางออกมาเป็ นบทเพลง อย่างเช่น เพลงหลักแสนอ่อนโยน ‘Don’t Let Me Go’นั่นเอง เพลงนี้เริ่มต้นด้วยบทสนทนาเกี่ ยวกับความน่ากลัวของสื่อโซเชี ยลซึ่งมักวนเวียนอยู่ตลอด โดยมีท่อนที่กล่าวถึงว่า “บางทีเราอาจจะป่วย / ป่วยซึมลึกถึงกระดูก / คุณยิ้มและก้มมองมือถือ / เมืองนี้เต็มไปด้วยควัน” ซึ่ง Odell ได้แรงบันดาลใจมาจากคลิปวิดี โอที่เขาเห็นผู้โดยสารบนรถไฟฟ้ ากำลังไถมือถืออย่างไม่รู้ร้ อนรู้หนาว ขณะที่โลกดูราวกับถึงวันล่มสลาย ขณะที่เสียงเปียโนอั นไพเราะในเพลง ‘Why Do I Always Want The Things I Can’t Have’ เขาคร่ำครวญว่า “ผมนั่งจ้องจอ จนตาปวดไปหมด / เรากำลังเสื่อมศรัทธาในโลกที่ เรากำลังสร้างขึ้น”
“สำหรับผมแล้ว มันสรุปได้อย่างชัดเจนถึงภาระรั บผิดชอบที่มีต่อความจริงที่ว่า ผมมีส่วนต้อง [รับผิดชอบ]พอๆ กับพวกคุณ หรือผู้มีอำนาจทั้งหลาย” เขากล่าวถึงท่อนถัดไปว่า “ผมเกลียดเวลาที่ผู้คนมั กโทษคนอื่น เพราะถ้าเรามองย้อนกลับมาตอนนี้ ในอีก 30 ปีข้างหน้า เราต้องรับผิดชอบต่อโลกที่ เราอาศัยร่วมกัน แต่ผมยังมองในแง่ดี ผมรู้สึกว่าบางทีสิ่งที่จำเป็ นต้องมี ก็คือความศรัทธาในตัวเอง เพราะเราทำให้มันมาไกลขนาดนี้ แล้ว”
เพลงที่มีชื่อเดียวกับอัลบั้ม ‘Wonderful Life’ ซึ่งเริ่มต้นจากจังหวะก้าวเดิ นที่ผ่อนคลาย จนถึงจังหวะที่เร่งเร้าขึ้น ถ่ายทอดความศรัทธาผ่านเพลงที่ ให้ความรู้สึกสงบนิ่งและสิ่งเล็ กสิ่งน้อยในชีวิตประจำวัน ขณะที่ ‘Prayer’ ผ่านตัวละครในวัยเด็ก ซึ่งอาจจะเป็นตัวเขาเอง เพื่อปลอบโยนและสะท้อนความคิ ดออกมา “การกอดตัวเองในวัยเด็กเป็นเรื่ องดีมากหากคุณสามารถหาเขาเจอ” เขายิ้ม สำหรับเพลงนั้นไปจนถึงเพลงอื่ นในอัลบั้ม ความใกล้ชิดและความอบอุ่ นในงานสร้างช่วยตอกย้ำความรู้สึ กในน้ำเสียง Odell ที่อยากพูดกับคุณโดยตรง เหมือนได้ยื่นมือออกไปหา อัลบั้มนี้อัดเสียงในสตูดิโอถึง 3 แห่งในกรุงลอนดอน โดยที่ Odell และวงดนตรีของเขาอัดเสียงทุกอย่ างด้วยการเล่นเครื่องดนตรี แบบสดๆ ให้เสียงสอดประสานกัน เพื่อคงไว้ซึ่งความรู้สึกที่เป็ นธรรมชาติและมีความเป็นมนุษย์ จริงๆ
ความรู้สึกอบอุ่นใจจากเพลงอะคู สติกอย่าง ‘Don’t Cry, Put Your Head On My Shoulder’ ถือเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ ยมของเรื่องนี้ ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของเพื่ อนที่จมอยู่กับความขัดแย้ง และความยากลำบากในการเรียนรู้วิ ธีที่ดีที่สุดในการช่วยเหลื อพวกเขา ขณะเดียวกัน ในเพลง ‘Ugly’ Odell ถ่ายทอดความรู้สึกเจ็บปวดโดยไม่ เสแสร้ง “คุณไม่อยากสัมผัสฉัน / ไม่ต้องการตัวฉัน / เพราะฉันมันน่าเกลียด” “มีบางสิ่งที่ผมไม่เคยพูดถึงจริ งๆ เกี่ยวกับความรู้สึกอับอายแปลกๆ ที่มีต่อร่างกายของตัวเอง และมันรู้สึกอึดอัดที่จะถ่ ายทอดออกมาเป็นเพลง แต่เมื่อคุณได้พูดมันออกมาแล้ว กลับมีพลังอย่างมาก” เขากล่าว ‘Ugly’ เป็นการสำรวจถึงความรู้สึ กของการเป็นมนุษย์ มองออกไปยังโลกภายนอก และรู้สึกได้ว่าทุกคนเหมือนะใช้ ชีวิตได้อย่างราบรื่น แต่ประสบการณ์ในการชีวิตของตั วคุณเองกลับเต็มไปด้วยความยุ่ งยาก และไม่สวยงามเลย”
มันเป็นเพลงที่อาจสร้ างความตกใจเมื่อเขาปล่อยมั นออกมา เพราะมาจากศิลปินซึ่ งหลายคนมองว่าประสบความสำเร็ จอย่างมากในชีวิต ทั้งยังมีจำนวนแฟนเพลงเพิ่ มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ Odell กลับสนใจที่จะชี้ให้เห็นถึ งความซับซ้อนของการมีชีวิ ตมากกว่าการสร้างภาพลักษณ์แบบป๊ อปสตาร์สุดลึกลับ ใน A Wonderful Life เขาสร้างสรรค์ผลงานที่ พยายามทำความเข้าใจถึ งการดำรงอยู่ของมนุษย์ ซึ่งโดยแก่นแท้แล้วเต็มไปด้ วยความยุ่งเหยิง ซับซ้อนและไม่เคยเป็นแค่สิ่ งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว “ผมหวังว่าผมจะสามารถสรุปอารมณ์ และสารที่ต้องการจะสื่อผ่ านเพลงเหล่านี้ให้ออกมาดูดี แต่มันกลับตรงกันข้ามกันอย่างสิ้ นเชิง” เขากล่าว “การใช้ชีวิตและเขียนมั นออกมาอย่างซื่อตรงที่สุด กลายเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในชี วิตผมตอนนี้ และผมรู้สึกว่าถ้าผมมีหน้าที่ อะไรก็ตาม ผมแค่ทำสิ่งนั้นต่อไป”